แม้ Rippling สตาร์ทอัพด้าน HR จะเติบโตจนมีมูลค่ากว่า 1.35 หมื่นล้านเหรียญฯ และมีพนักงานกว่า 3,200 คนแล้ว แต่ Parker Conrad ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทก็ยังคงลุยเองทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติรายงานค่าใช้จ่าย หรือแม้แต่การทำเพย์โรลให้พนักงาน!
Conrad เชื่อว่าการลงมือทำเอง ทำให้เขาเข้าใจผลิตภัณฑ์ของตัวเองอย่างลึกซึ้ง และสามารถให้ฟีดแบ็กกับทีมพัฒนาได้อย่างตรงจุด
“หนึ่งในสิ่งที่ผมชอบที่สุดเกี่ยวกับบริษัทคือ ผมเป็นผู้ใช้หลักของ Rippling ใน Rippling เอง” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับพอดแคสต์ Found ของ TechCrunch
นอกจากการทำเพย์โรลและอนุมัติค่าใช้จ่ายแล้ว เขายังใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อจัดการสวัสดิการและกำหนดนโยบาย HR ต่าง ๆ ซึ่งทำให้เขาสามารถเห็นปัญหาและจุดที่ต้องปรับปรุงได้อย่างรวดเร็ว
Conrad ยังมีแนวคิดที่แตกต่างจากผู้ก่อตั้งคนอื่น ๆ ในเรื่องการบริหารจัดการ เขาไม่เชื่อในการบริหารแบบ top-down ที่ผู้จัดการบริหารผู้จัดการคนอื่น ๆ
“ผมคิดว่าวิธีเดียวที่ผมเคยแก้ปัญหาได้คือการลงไปคลุกคลีกับมันด้วยตัวเอง” Conrad กล่าว “ถ้ามีปัญหาในการขาย คุณต้องไปดูการโทรขาย 20 ครั้งล่าสุด และดูว่าเกิดอะไรขึ้นในการโต้ตอบระหว่างพนักงานขายกับลูกค้า”
เขายังบอกอีกว่า ถ้าเขาพบปัญหาในส่วนอื่น ๆ เช่น ฝ่ายบริการลูกค้า เขาจะอ่านบันทึกการสนทนาล่าสุด 50 ครั้ง และอาจลงไปทำงานเป็นตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าด้วยตัวเองสองสามวัน
Conrad เรียกแนวทางนี้ว่าการรวบรวม “ane-data” หรือข้อมูลเชิงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ซึ่งช่วยให้ซีอีโอเห็นปัญหาได้ชัดเจนกว่าการดูแดชบอร์ดข้อมูล
นี่เป็นสไตล์ที่แตกต่างจากผู้ก่อตั้งที่เชื่อว่าพวกเขาสามารถบรรลุผลลัพธ์ได้ด้วยการใช้อำนาจหรือการออกคำสั่ง แต่มันคล้ายกับวิธีที่ Jeff Bezos ของ Amazon ใช้ที่อยู่อีเมลสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อร้องเรียนจากลูกค้า
Conrad ยังไม่เชื่อในแนวคิดที่ว่าผู้ก่อตั้งควรระบุจุดอ่อนของตนเองและจ้างคนอื่นมาทำหน้าที่เหล่านั้นแทน เขาเรียกแนวทางนี้ว่า “ไร้สาระ” และกล่าวว่าผู้ก่อตั้งควรเรียนรู้ที่จะเชี่ยวชาญในด้านที่พวกเขาไม่แข็งแกร่ง
“คุณควรหาสิ่งที่คุณเกลียดภายในบริษัท แล้ววิ่งเข้าหามัน กอดมันไว้ และจัดการกับมันอย่างจริงจัง เพราะนั่นคือสิ่งที่อาจจะฆ่าคุณได้” Conrad กล่าว “นั่นคือสิ่งที่คุณอาจกำลังหลีกเลี่ยงเพราะมันไม่สบายใจที่จะมุ่งเน้นไปที่มัน ผมเคยเห็นสิ่งนั้นในตัวเอง และสิ่งที่คุณเกลียดจริง ๆ นั่นแหละคือสิ่งที่คุณควรใช้เวลาทั้งหมดของคุณไปกับมัน”
แนวคิดของ Conrad อาจดูสุดโต่งสำหรับบางคน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันได้ผลสำหรับเขาและ Rippling การที่ผู้นำลงไปคลุกคลีกับปัญหาด้วยตัวเอง ช่วยให้เข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งและสามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างบริษัทที่ประสบความสำเร็จ