Cowboy บริษัทสัญชาติเบลเยียมผู้อยู่เบื้องหลังจักรยานไฟฟ้าสุดฮิตในเมืองใหญ่ทั่วยุโรป เพิ่งปิดการระดมทุนรอบเล็กมูลค่า 5 ล้านยูโร (ราว 200 ล้านบาท) โดยเป็นเงินกู้ 1 ล้านยูโร แม้ตัวเลขอาจดูไม่โดดเด่นเท่ารอบก่อนๆ แต่ครั้งนี้ Cowboy มองหาพันธมิตรนอกวงการ VC ยุโรป จนได้ Cypress Capital จากฮ่องกงมานำทัพ ด้วยหวังว่าจะเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ โดยเฉพาะในไต้หวัน ศูนย์กลางอุตสาหกรรมจักรยานระดับโลก
อาเดรียง รูส ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Cowboy เผยว่า “ซัพพลายเออร์ส่วนใหญ่ของเราอยู่ในเอเชีย โดยเฉพาะไต้หวัน แม้เราจะเพิ่มสัดส่วนซัพพลายเออร์ยุโรปอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีอีกครึ่งที่มาจากเอเชีย” นักลงทุนเดิมอย่าง Index Ventures, Hardware Club และอื่นๆ ก็ร่วมลงขันด้วย นอกจากนี้ Cowboy ยังเตรียมเปิดให้ลูกค้าร่วมลงทุนผ่านแคมเปญระดมทุนจากมวลชนอีกด้วย
รูสกล่าวว่า ยอดระดมทุนที่ลดลงสะท้อนถึงความต้องการเงินทุนที่น้อยลง โดยบริษัทคาดว่าจะพอๆ กับจุดคุ้มทุนในครึ่งหลังของปีนี้ และทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในปีหน้า “เราไม่อยากระดมทุนเกินความจำเป็น โดยเฉพาะในภาวะตลาดแบบนี้” เขากล่าว
หลังจากยอดขายพุ่งในช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 อุตสาหกรรมจักรยานไฟฟ้าก็ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด การล้มละลายของ VanMoof คู่แข่งรายสำคัญ ยิ่งส่งผลกระทบต่อวงการ มูลค่าของ Cowboy ก็ลดลงเหลือ 40 ล้านยูโรก่อนการระดมทุนครั้งนี้ แต่บริษัทมองว่าเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์แล้ว
Cowboy เริ่มต้นด้วยการโฟกัสที่รุ่นเดียวและพัฒนาดีไซน์เรื่อยมา ล่าสุดได้ขยายไลน์สินค้าสู่รูปแบบอื่นๆ เช่น Cruiser ที่นั่งตัวตรงขึ้น และ Cross สำหรับการขี่ทางไกล บริษัทยังขยายช่องทางจำหน่ายไปยังร้านจักรยานทั่วไปด้วย
ทั้งนี้ จักรยาน Cowboy ทุกรุ่นใช้แพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์เดียวกัน รวมถึงฟีเจอร์อย่างแจ้งเตือนการโจรกรรม ตรวจจับอุบัติเหตุ และ AdaptivePower ที่ปรับกำลังมอเตอร์ตามความชันและแรงลม
รูสทิ้งท้ายว่า “เราลงทุนสร้างแพลตฟอร์มที่ทำงานได้ดีมาก ตอนนี้เราอยากต่อยอดมันด้วยการสร้างครอบครัวผลิตภัณฑ์ ทั้ง Classic, Cruiser, Cross และจะมีจักรยานรุ่นใหม่ๆ จากเราอีกในอนาคต”