สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกรกฎาคม พุ่งขึ้น 0.5% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แม้ว่าภาวะเงินฝืดในภาคผู้ผลิตจะยังคงดำเนินต่อไป
ข่าวนี้สร้างความกังวลให้กับรัฐบาลจีน ที่กำลังพยายามกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง
ข้อมูลล่าสุดยังแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมการผลิตของจีนหดตัวลง และความหวังในการฟื้นตัวจากการส่งออกก็ลดลง เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้ากับชาติตะวันตก ภาษีนำเข้าสินค้าจีน และความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยของสหรัฐฯ
ผู้บริโภคชาวจีนยังคงไม่ตอบสนองต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อ ความไม่มั่นคงในการทำงาน และหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น ทำให้พวกเขาไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะสินค้าราคาแพง
ยอดขายรถยนต์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของยอดค้าปลีกของจีน ลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในเดือนกรกฎาคม แม้จะมีโครงการแลกเปลี่ยนรถยนต์แห่งชาติและผ่อนคลายกฎสินเชื่อรถยนต์ก็ตาม
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.8% ในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า และดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย
รัฐบาลจีนได้ให้คำมั่นว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้บริโภค หลังจากประกาศจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลอายุยาวพิเศษ 300 พันล้านหยวน (ประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการอัพเกรดอุปกรณ์และการแลกเปลี่ยนสินค้าอุปโภคบริโภค
สถานการณ์เศรษฐกิจจีนยังคงน่าเป็นห่วง รัฐบาลจะสามารถกระตุ้นการบริโภคและพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้หรือไม่? ต้องติดตามกันต่อไป!