แคนาดาเดินตามรอยสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีน 100% พร้อมกับภาษี 25% สำหรับเหล็กและอลูมิเนียมจากจีน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
นายกรัฐมนตรี Justin Trudeau กล่าวว่ามาตรการนี้มีขึ้นเพื่อตอบโต้ “นโยบายที่จงใจและควบคุมโดยรัฐของจีนในการผลิตเกินกำลัง” และย้ำว่า “สิ่งสำคัญคือเรากำลังทำสิ่งนี้ควบคู่ไปกับเศรษฐกิจอื่น ๆ ทั่วโลก”
แม้จีนจะเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของแคนาดา แต่ก็ยังตามหลังสหรัฐฯ อยู่มาก ข้อมูลจากท่าเรือแวนคูเวอร์ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดา แสดงให้เห็นว่าการนำเข้ารถยนต์จากจีนที่ท่าเรือนี้เพิ่มขึ้น 460% ต่อปีในปี 2023 เมื่อ Tesla เริ่มส่งรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในเซี่ยงไฮ้ไปยังแคนาดา
Trudeau กล่าวว่า แคนาดาจะยังคงทำงานร่วมกับสหรัฐฯ และพันธมิตรอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าทั่วโลกจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างไม่เป็นธรรมจากการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาดของประเทศต่างๆ เช่น จีน
นอกจากนี้ แคนาดายังกำลังพิจารณามาตรการลงโทษเพิ่มเติม เช่น การเก็บภาษีชิปและเซลล์แสงอาทิตย์ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีนเป็น 4 เท่าเป็น 100% เพิ่มภาษีเซมิคอนดักเตอร์และเซลล์แสงอาทิตย์เป็น 2 เท่าเป็น 50% และเก็บภาษีใหม่ 25% สำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและสินค้าเชิงกลยุทธ์อื่นๆ เช่น เหล็ก เพื่อปกป้องบริษัทในประเทศจากการผลิตส่วนเกินของจีน
สหภาพยุโรปก็ได้กำหนดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนสูงสุด 37.6% เมื่อเดือนที่แล้วเช่นกัน
รัฐบาลแคนาดากำลังพยายามวางตำแหน่งประเทศให้เป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก และได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากอุตสาหกรรมในประเทศให้ดำเนินการต่อต้านจีน
Flavio Volpe ประธานสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กล่าวว่า “เรารู้สึกได้รับการพิสูจน์และมีแรงจูงใจ ตอนนี้เรามาเริ่มปกป้องตลาดของเราด้วยนวัตกรรมและความมุ่งมั่นที่ดีที่สุดของแคนาดากันเถอะ”
แคนาดาได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อดึงดูดผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของยุโรปในทุกส่วนของห่วงโซ่อุปทานรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อเสริมสร้างฐานการผลิตของประเทศ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการตามมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ได้ล่าช้าไปจนถึงเดือนกันยายน และมีความเป็นไปได้ว่าอัตราภาษีที่วางแผนไว้อาจลดลงในสัปดาห์นี้